ความหมายของรายได้ประชาชาติ
รายได้ประชาชาติ (national income) หมายถึงรายได้ของประชากรในประเทศใดประเทศหนึ่งรวมกันในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือมูลค่าของสินค้าและบริการรวมทั้งหมดที่ประชากรของประเทศนั้นผลิตได้ในรอบระยะเวลาหนึ่ง (ปกติ 1 ปี)
คำว่า รายได้ประชาชาติ เป็นคำกลางๆที่กล่าวถึงผลผลิตหรือรายได้รวมของชาติ ซึ่งในทางเศรษฐศาสตร์ได้มีการจำแนกประเภทของรายได้ประชาชาติออกเป็น 7 ประเภทดังนี้
รายได้ประชาชาติ (national income) หมายถึงรายได้ของประชากรในประเทศใดประเทศหนึ่งรวมกันในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือมูลค่าของสินค้าและบริการรวมทั้งหมดที่ประชากรของประเทศนั้นผลิตได้ในรอบระยะเวลาหนึ่ง (ปกติ 1 ปี)
คำว่า รายได้ประชาชาติ เป็นคำกลางๆที่กล่าวถึงผลผลิตหรือรายได้รวมของชาติ ซึ่งในทางเศรษฐศาสตร์ได้มีการจำแนกประเภทของรายได้ประชาชาติออกเป็น 7 ประเภทดังนี้
- ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้น (Gross Domestic Product, GDP)
คือมูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตได้ภายในประเทศ โดยยึดอาณาเขตพื้นที่ของประเทศเป็นสำคัญ กล่าวคือ สินค้าและบริการใดก็ตามที่ผลิตขึ้นภายในประเทศใดจะถือเป็นผลผลิตภายในประเทศนั้น โดยไม่คำนึงว่าทรัพยากรที่นำมาผลิตสินค้านั้นเป็นของชนชาติใด กล่าวคือ ชาวต่างประเทศที่นำทรัพยากรเข้ามาตั้งโรงงานผลิตสินค้าในประเทศไทย ผลผลิตที่ได้จะรวมอยู่ใน GDP ของไทย ในทางตรงข้าม คนไทยที่นำทรัพยากรออกไปผลิตสินค้าในต่างประเทศ ผลผลิตที่ได้ก็จะรวมอยู่ใน GDP ของประเทศนั้น จะไม่นำมารวมไว้ใน GDP ของประเทศไทย
- ผลิตภัณฑ์ประชาชาติเบื้องต้น (Gross National Product, GNP)
คือมูลค่าสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตขึ้นด้วยทรัพยากรของประเทศในระยะเวลาหนึ่ง ให้สังเกตว่าสินค้าที่ผลิตขึ้นด้วยทรัพยากรของประเทศไม่จำเป็นต้องมีมูลค่าเท่ากับสินค้าที่ผลิตภายในประเทศเสมอไป อาจแตกต่างกันได้ถ้าหากมีการนำทรัพยากรออกไปผลิตในประเทศอื่น และ/หรือประเทศอื่นนำทรัพยากรเข้ามาผลิตในประเทศไทย ดังนั้น GNP จะเท่ากับ GDP เฉพาะเมื่อไม่มีการเคลื่อนย้ายทรัพยากรระหว่างประเทศ แต่ถ้ามีการเคลื่อนย้ายทรัพยากรระหว่างประเทศ GNP จะต่างกับ GDP เท่ากับรายได้สุทธิจากต่างประเทศ โดยเขียนเป็นสมการดังนี้ GNP = GDP + รายได้สุทธิจากต่างประเทศ
- ผลิตภัณฑ์ในประเทศสุทธิ (Net Domestic Product, NDP)
คือผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้น (GDP) หักด้วยค่าเสื่อมราคา (depreciation)
- ผลิตภัณฑ์ประชาชาติสุทธิ (Net National Product, NNP)
คือผลิตภัณฑ์ประชาชาติเบื้องต้น (GNP) หักด้วยค่าเสื่อมราคา เหตุที่นำค่าเสื่อมราคามาหัก ออกเพราะต้องการเฉพาะมูลค่าของผลผลิตสุทธิที่ประเทศผลิตได้แท้จริง โดยทั่วไปในการผลิตสินค้านั้นทุนส่วนหนึ่งจะถูกใช้หมดไปในการผลิตในลักษณะที่ทำให้ทุนนั้นเกิดการสึกหรอหรือเสื่อมค่าลงไปทีละน้อย ด้วยเหตุนี้ ส่วนหนึ่งของสินค้าและบริการที่ผลิตได้ในงวดนั้นจึงต้องใช้สำหรับทดแทนทุนเก่า ที่สึกหรอไป ดังนั้นสินค้าและบริการที่ผลิตได้ทั้งหมดจึงยังไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สุทธิที่ระบบเศรษฐกิจผลิตได้แท้จริง จำเป็นต้องหักด้วยค่าเสื่อมราคาเสียก่อน
- รายได้ประชาชาติ (National Income, NI)
รายได้ประชาชาติหมายถึงผลิตภัณฑ์ประชาชาติสุทธินั่นเอง แต่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ ประชาชาติสุทธิ (NNP) ที่กล่าวมาแล้วคือ NI เป็นผลิตภัณฑ์ประชาชาติสุทธิตามราคาปัจจัยการผลิต (NNP at factor costs) แต่ NNP เป็นผลิตภัณฑ์ตามราคาตลาด (NNP at market prices) ด้วยเหตุนี้ เพื่อป้องกันการสับสนจึงได้เรียกชื่อแตกต่างกัน ข้อแตกต่างระหว่างราคาปัจจัยการผลิต (factor costs) และราคาตลาด (market price) คือ ราคาปัจจัยผลิตหมายถึงค่าใช้จ่ายโดยตรงในการผลิต ซึ่ง ได้แก่ ค่าจ้าง ค่าเช่า ดอกเบี้ย และกำไร ส่วนราคาตลาดนอกจากจะรวมราคาปัจจัยการผลิตแล้ว ยังรวม ภาษีทางอ้อมธุรกิจ (indirect business tax) ไว้ด้วย ด้วยเหตุนี้ การหามูลค่ารายได้ประชาชาติจาก NNP จึงจำเป็นต้องหักด้วยภาษีทางอ้อมธุรกิจดังนี้
NI = NNP - ภาษีทางอ้อมธุรกิจ ในกรณีที่ไม่มีภาษีทางอ้อมธุรกิจ รายได้ประชาชาติและ NNP จะมีค่าเท่ากันพอดี
- รายได้ส่วนบุคคล (Personal Income, PI)
คือรายได้ทั้งหมดก่อนหักภาษี เงินได้ที่ครัวเรือนได้รับจริง (income received) แตกต่างจากรายได้ประชาชาติ คือ รายได้ประชาชาติเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นจริงจากการผลิต (income earned) ซึ่งไม่จำเป็นต้องกลายเป็นรายได้ส่วนบุคคลทั้งหมด เพราะแม้รายได้จะเกิดขึ้นแล้วก็ตาม แต่ถ้า หน่วยผลิตไม่จ่ายให้แก่ครัวเรือนแล้วก็ไม่ถือเป็นรายได้ส่วนบุคคล ได้แก่ ภาษีประกันสังคม ภาษีเงินได้ บริษัท (corporate income tax) เงินกำไรที่ยังไม่ได้นำมาจัดสรร (undistributed profit) เหล่านี้ไม่ถือเป็นรายได้ส่วนบุคคล นอกจากนี้ รายได้ส่วนบุคคลยังประกอบด้วยรายได้ที่ไม่ได้เกิดจากการผลิต โดยตรงอีกด้วย เช่น เงินโอนต่างๆ ดอกเบี้ยที่เอกชนได้รับจากรัฐบาล เป็นต้น ดังนั้นการคำนวณรายได้ส่วนบุคคลจากรายได้ประชาชาติจึงเป็นดังนี้
รายได้ส่วนบุคคล = รายได้ประชาชาติ - (ภาษีประกันสังคม + ภาษีรายได้บริษัท + กำไรที่ยังไม่ได้จัดสรร) + เงินโอน + ดอกเบี้ยที่เอกชนได้รับจากรัฐบาล
- รายได้ที่ใช้จ่ายได้จริง (Disposable Income, DI)
รายได้ทั้งหมดที่ครัวเรือนได้รับมา (PI) ส่วนหนึ่งจะต้องนำมาเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล (personal income tax) ที่เหลือจึงจะสามารถนำไปใช้จ่ายได้ รายได้ชนิดนี้แสดงถึงอำนาจซื้อ (purchasing power) ที่แท้จริงของประชาชน รวมทั้งความสามารถในการออมด้วย
DI = PI - ภาษีเงินได้